เทพพระคลัง รุ่น 1 เปิดขุมทรัพย์

กว่าจะเป็นเหรียญเทพพระคลัง รุ่น 1 เปิดขุมทรัพย์

แรกเริ่มเกิดจากการเข้าไปศึกษาเรื่องตราสัญลักษณ์ทางการเงินของประเทศไทย คือ นกวายุภักษ์ แต่เมื่อได้สัมผัสความสำคัญของตราดังกล่าว ผมก็ผุดแนวคิดจัดพิธีบวงสรวงให้เทพเทวาผ่านสื่อสัญลักษณ์นกวายุภักษ์ เพื่อปรับพลังการเงินในระบบเศรษฐกิจให้ดีขึ้นทางหนึ่ง

เพราะจุดนี้หลายคนมองข้ามด้วยยุคสมัยแห่งจิตวิญญาณ(นามธรรม)สู่ยุครุ่งเรืองทางวัตถุ(รูปธรรม) น้อยคนนักที่จะสัมผัสถึงพลังงานทิพย์ที่ขับเคลื่อนผ่านตราสัญลักษณ์ในรูปต่างๆ ยิ่งมีการใช้ตราของเทพในองค์กร ยิ่งสมควรมีการจัดพิธีบวงสรวง เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวที ขอบพระคุณความเมตตาจากทุกท่านทุกพระองค์ เมื่อส่งความปรารถนาดีจากการถวายบุญกุศล แด่เทพเทวา ครูอาจารย์แล้วจะมีผลดีสะท้อนกลับมายังชีวิตปัจจุบันของผู้ปฏิบัติอย่างน่าอัศจรรย์

ต่อมาเมื่อค้นคว้าเพิ่มเติมได้พบข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเทพองค์หนึ่ง นามว่า “พระคลังมหาสมบัติ” ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธามานานนับร้อยปี แต่ยังไม่แพร่หลายในคนหมู่มาก ผมสะดุดตรงหน้าที่ของพระองค์ เป็นเทวดาผู้ดูแลรักษาคลังมหาสมบัติของประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงต่อระบบเศรษฐกิจของชาติแน่นอน จึงอธิษฐานในใจและบอกกล่าวคนใกล้ชิดว่า ผมปรารถนาจัดพิธีถวายเทพพระคลังเพื่อแก้ไขดวงเมืองและเศรษฐกิจไปพร้อมกัน เพราะสัมผัสถึงความอ่อนแรงของเหล่าเทวดาผู้เป็นสัมมาทิฏฐิ ที่ทำหน้าที่คุ้มครองดูแลประเทศไทย ผมจึงขออัญเชิญองค์พระคลังมหาสมบัติ เพื่อเป็นสื่อนำในการสื่อสารกับคนไทยทั้งชาติให้มารวมพลังในพิธีบวงสรวงเทพพระคลังมหาสมบัติเพื่อแผ่นดิน ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ณ วงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ท่านใดได้ร่วมพิธีคงทราบดีถึงพลังแห่งความสามัคคีของคนไทยจำนวนหนึ่ง ซึ่งสำหรับผมนิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์ ถือว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตงานหนึ่ง โดยมีผู้ร่วมมากกว่า 5,000 คน(ประมาณจากบทสวดมนต์ที่แจกไปและยังไม่เพียงพอต่อคนเข้าร่วมงานอีกด้วย)

หลังจากความภาคภูมิใจในพิธีดังกล่าว ผมก็ได้ทราบเรื่องราวปาฏิหาริย์จากผู้ร่วมงาน 2 ท่านมาขอบคุณพร้อมกันในงานบรรยายศาสตร์พลังตัวเลขการกุศลท่านที่หนึ่ง ป่วยหนักด้วยโรคผิวหนังขั้นรุนแรง รอดพ้นมาได้ เพราะขอพรเทพพระคลังและสวดมนต์บทสอนเจ้ากรรมนายเวรควบคู่กัน เหลือเชื่อ!อาการดีขึ้นเพียงข้ามคืนจนะเธอได้ร้องตะโกนด้วยความดีใจว่า “รอดตายแล้วๆ”…ขอเล่าโดยย่อ ส่วนท่านที่สอง เล่าด้วยรอยยิ้มว่า หลังจากตกงานก็ได้อาชีพใหม่หลังขอพรในพิธี ในเช้าวันถัดมาก็ได้รับสูตรทำอาหาร และยึดเป็นอาชีพหลักจนถึงวันนี้ อีกทั้งขายดีและมีความสุขมาก เคล็ดลับเสริมพลังไม่พ้นการเขียนยันต์ตัวเลข 4289&6395 และสวดมนต์บทสอนเจ้ากรรมนายเวรเป็นประจำ

ยังมีปรากฎการณ์อีกมากมายทำให้ผมสิ้นสงสัยในความศักดิ์สิทธิ์ของ พระคลังมหาสมบัติ จนขอยกย่องพระนามท่านว่า เทพพระคลังมหาสมบัติ ด้วยความศรัทธาและเคารพยิ่ง เมื่อท่านมีจริงก็เป็นแรงบันดาลใจที่จะริเริ่มสร้างเหรียญสักการะบูชา ประกาศเกียรติคุณพระองค์และเหล่าเทพยดาผู้พิทักษ์ทุกสรรพสิ่งในแผ่นดินไทย โครงการสร้างเหรียญนี้จึงเป็นความทุ่มเทอย่างที่สุด นอกจากการออกแบบที่คัดเลือกอย่างดี ด้านหน้าเทพพระคลังมหาสมบัติ ปางเปิดขุมทรัพย์(ออกแบบเองครับ) ด้านหลังสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ปางประกาศพระราชปณิธาน(ออกแบบเองอีกเช่นเดียวกัน) และมียันต์พลังตัวเลขมงคล 3 ชุดในเหรียญด้วย สิ่งสำคัญสุดพิเศษ คือการใช้ฤกษ์งามยามดีสำหรับปลุกเสก ซึ่งตัวผมมีประสบการณ์ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำโดยบังเอิญในงานบวงสรวงที่จัดขึ้นเอง

ครั้งนั้นเกิดความประทับใจและเข้าใจเหตุผลที่แท้แล้วว่า พ่อแม่ครูอาจารย์ถึงใช้ฤกษ์นี้ทำพิธีสำคัญ จึงตรวจดูปฏิทินเพื่อค้นหาวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ ปี 2563 พบว่ามีถึงสองครั้งด้วยกัน จึงตัดสินใจทันทีว่า ต้องทุ่มทุนสร้างทำเหรียญรุ่นแรกนี้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม 2563ซึ่งและวันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม 2563 เพื่อรับพลังอันเข้มขลังให้มากที่สุด (รายละเอียดเบื้องหลังงานสร้างเหรียญสักการะยังมีอีกมากมายมหาศาลแต่ขอกล่าวเท่านี้) ผู้สร้างมุ่งหวังใช้เหรียญนี้เป็นเครื่องมือบรรเทาทุกข์บำรุงสุขต่อผู้คนทั้งหลาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งทางโลกควบคู่กับการเชื่อมโยงกับทางธรรม(กลไกแห่งพุทธะ) ด้วยกุศโลบายดังต่อไปนี้

1. ระลึกถึงเป็น เทวตานุสติ แห่งตราสัญลักษณ์ เช่น เทพพระคลังมหาสมบัติและพระเจ้าตากสินมหาราช ทั้งสองพระองค์ทรงคุณความดีจนได้เป็นเทวดาที่ควรบูชาสักการะยิ่ง เป็นเครื่องเตือนสติให้ทำความดีไม่ท้อถอย

2. รหัสพลังตัวเลขเป็นสะพานเชื่อมบุญบาป เลขดีเป็นรหัสพลังเข้าถึงบุญได้ง่าย และเลขร้ายเป็นรหัสพลังลบดึงดูดอุปสรรคปัญหา และพลังตัวเลขที่ได้มาในชีวิตทั้งดีร้าย เช่น วันเดือนปี,รหัสต่างๆ เป็นผลจากการกระทำนับอดีตถึงปัจจุบันของเรา

3. แม้มีเลขมงคล วัตถุมงคล ก็ยังหนีไม่พ้นจากความทุกข์ไปได้ เพราะพลังงานที่ดีจากสิ่งมงคลรอบตัวยังส่งผลดีได้ยาก เพราะ 2 ปัจจัย หนึ่ง จิตวิญญาณที่มีกิเลสตัณหาหนาไม่ปล่อยวาง สอง หนี้วิบากกรรมชั่ว(อกุศลกรรม)ที่ติดค้างมาจากภพอดีตและชาติปัจจุบัน ถ่วงรั้งความเจริญแบบหาสาเหตุไม่ได้ ซึ่งเกินวิสัยของคนที่ยังไม่ได้เรียนรู้กฏแห่งกรรมอย่างลึกซึ้งจะเข้าถึงได้และวิธีแก้ไขที่ง่าย เห็นผลชัดเจน รวดเร็ว คือ การใช้แนวทางสวดมนต์พลิกชีวิตด้วยบทสวดสอนเจ้ากรรมนายเวร ซึ่งนำพาให้ปลดเปลื้องหนี้กรรม และเป็นการสร้างพลังงานบุญบริสุทธิ์ได้ดีมาก

ขอกล่าวโดยสรุปว่า เมื่อมีเหรียญเทพพระคลังมหาสมบัติ รุ่น 1 เปิดขุมทรัพย์ ควรน้อมสักการะบูชาอย่างมีปัญญา ควบคู่กับการเจริญพุทธมนต์ปาฏิหาริย์บทสอนเจ้ากรรมนายเวร เมื่อปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว ชีวิตของบุคคลนั้นย่อมมีความผาสุข มีกินมีใช้ มีความสบายกายสบายใจ เข้าถึงสันติสุขแห่งพุทธะอย่างแท้จริง มหามุทิตาโมทนาสาธุทิพย์ๆๆ นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์ 22 สิงหาคม พ.ศ.2563(วันเสาร์ขึ้น ห้าค่ำ)

เผยแพร่โดย

admin

ดำเนินการโดยแอดมิน

2 thoughts on “กว่าจะเป็นเหรียญเทพพระคลัง รุ่น 1 เปิดขุมทรัพย์”

  1. น้อมกราบสาธุค่ะ ถ้ามีโอกาส มีบุญและดีพอแล้ว จะร่วมบุญกุศลด้วยนะคะอาจาร์ย
    ศรัทธาการสร้างโบสถ์ สร้างพระ ช่วยเหลือเด็ก และทำบุญเกี่ยวกับสงฆ์ อนุโมทนาบุญค่ะ
    เพิ่งมาได้เห็น เลื่อมใสค่ะ สาธุค่ะ

  2. น้อมกราบสาธุค่ะ ถ้ามีโอกาส มีบุญและดีพอแล้ว จะร่วมบุญกุศลด้วยนะคะอาจาร์ย
    ศรัทธาการสร้างโบสถ์ สร้างพระ ช่วยเหลือเด็ก และทำบุญเกี่ยวกับสงฆ์ อนุโมทนาบุญค่ะ
    เพิ่งมาได้เห็น เลื่อมใสค่ะ สาธุค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

I'm not a spammer This plugin created by memory cards