ผมขอเล่าความประทับใจในงานพิธีเบิกเนตรสมเด็จองค์ปฐม พระประธานพระอุโบสถ ณ วัดเนินตูม จังหวัดอุทัยธานี พิธีการทุกอย่างดูเรียบง่ายเป็นไปอย่างราบรื่นและงดงาม แต่ก็มีเรื่องที่ไม่คาดคิดคือ ผมได้รับมอบหมายให้ปีนนั่งร้าน ขึ้นไป ตรงบริเวณที่ประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม เพื่อช่วยพระท่านจับไม้เบิกเนตร และเปิดยอดพระเศียรครั้งสุดท้าย เพื่อบรรจุวัตถุมงคลล้ำค่า เช่น พระบรมสารีริกธาตุ ฯลฯ
เนื่องจากเป็นที่สูง แม้จะหวาดหวั่นเพียงใดก็ทำหน้าที่ได้สำเร็จลุล่วงด้วยแรงกายแรงใจเต็มที่ ซึ่งทำให้ผมย้อนนึกถึงครั้งก่อนที่เทปูนและก้อนหินอธิษฐาน เพื่อก่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ด้วยความทุ่มเทแรงกายมากกว่าองค์อื่นที่เคยร่วมสร้างมา ผมจึงเข้าใจได้ว่า นิมิตฝันในตอนเช้าของวันนี้ มีความหมายเชื่อมโยงสื่อถึงการแก้ไขบรรเทาวิบากกรรมความขัดแย้งที่มีในครอบครัวผม (แม้จะไม่มาก แต่ก็ไม่อาจวางใจที่จะก่อปัญหาระหว่างพี่น้องในอนาคต) ในฝันนั้นผมได้กล่าวขออโหสิกรรมแก่พี่น้อง จนเกิดผลอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะไม่ง่ายนักที่จะฝัน และรู้สึกถึงการให้อภัย จึงมั่นใจว่า เป็นเรื่องของกรรมพันธุ(กรรมเป็นเผ่าพันธุ์) และการใช้ปัญญาพิจารณาขบคิดทบทวนจึงรู้ว่า ได้แก้ไขวิบากกรรมในส่วนนี้ให้เบาบางแล้ว รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่แก้ไขส่วนหนึ่งของวิบากกรรมร้ายได้ และเหตุปัจจัยน่าจะเป็น เพราะการสวดมนต์พลิกชีวิตบทสอนเจ้ากรรมนายเวร และอานิสงส์แห่งความตั้งใจจริงรวบรวมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างพระพุทธรูปที่เกิดจากความศรัทธาจากก้อนหินอธิษฐาน หล่อหลอมรวมเป็นสมเด็จองค์ปฐมพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์นี้
หลังจากจบงาน ผมได้เข้าพบพระอาจารย์ดอกอ้อ สนทนาถึงความก้าวหน้าในการสร้างโบสถ์หลังแรกนี้ แล้วได้พบเหตุปัจจัยที่ทำให้การสร้างโบสถ์หลังนี้ทุกอย่างช่างยากเย็นแสนเข็ญเหมือนมีอาถรรพ์มาเนิ่นนานถึง 153 ปี
พระท่านกล่าวว่า เมื่อสืบค้นข้อมูลประวัติลึกลงไปพบว่า ที่ดินวัดได้มาจากผู้ใด เพราะมีหลานเหลนของผู้เป็นเจ้าของที่ดินดั้งเดิมก่อนที่จะมาเป็นวัดแห่งนี้ ได้กล่าวถึงความทุกข์ที่บรรพบุรุษถูกเบียดเบียนเอาที่ดินผืนนี้ไปโดยมิชอบ และต่อมาได้ถูกยกให้เป็นที่วัดโดยผู้มีอำนาจในสมัยนั้น แม้เจ้าของที่ดินเดิมที่มีนามว่า นายก้าง ได้ตายจากไปแล้ว แต่ดวงจิตยังผูกพันและไม่ยอมรับความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น แรงจิตดวงนี้จึงผูกรั้งจนสามารถส่งผลสั่นสะเทือนให้สถานที่แห่งนี้(วัดเนินตูม)ไม่เจริญรุ่งเรือง ไม่มั่นคงผาสุขไปได้
ดังนี้แล้วพระอาจารย์ดอกอ้อ ผู้ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส จะจัดทำบุญขนานใหญ่อุทิศให้กับท่านผู้นี้ และชักชวนหลานเหลนของตระกูลนี้มาร่วมบุญรับผลบุญ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์วิกฤตในปัจจุบัน
ช่างน่าเหลือเชื่อ!! ที่พระพุทธองค์ได้ตรัสสอนว่า เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ สามารถตกทอดสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้จริง และดวงจิตวิญญาณยังมีผลต่อมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
…ดังนี้แล้วขอทุกท่านทบทวนตนเองถึงการกระทำ และสิ่งที่เรายึดมั่น ในเวลาที่เหลืออยู่ต่อจากนี้ไปว่า เราจะดำเนินชีวิตด้วยความรู้เท่าทันในกฏแห่งกรรม ว่าเป็นจริงมีจริง ส่งผลในทุกขณะ ทำอย่างไรย่อมมีผลเช่นนั้นกลับมาด้วยดอกเบี้ยทั้งดีและชั่ว จริงแท้แน่นอน
นิติกฤตย์ กิตติศรีวรนันท์
บันทึกเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม 2563
แหล่งที่มา
อนุโมทนาสาธุบุญค่ะ เสียดายมาไม่
ทันอาจาร์ย เพิ่งเข้ามาเห็น น้อมกราบสาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ